รฟท. ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดปทุมธานี นำเสนอแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย

24 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมบัวหลวงปทุมธานี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดปทุมธานี ครั้งที่ 4/2568 (กรอ.) โดยมี พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง 
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายดงพล รุจิธรรมธัช ปลัดจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ในการนี้ นายวิทัญญู นาควงษ์ วิศวกรอำนวยการศูนย์บริหารโครงการพิเศษ 1 และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา KU Consortium ได้นำเสนอแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบ

การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดสัมมนาแนะนำโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย ณ จังหวัดขอนแก่น


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดการสัมมนาเพื่อแนะนำโครงการศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสม รวมถึงการจัดทำเอกสารประกวดราคาและแนวทางดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานครหนองคาย ภายใต้พระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP) โดยจัดขึ้น ณ ห้องอวานี คอนเวนชั่น 1 ชั้น 2 โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พร้อมถ่ายทอดสดผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting


การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการฯ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ซึ่งจะถูกนำไปใช้ประกอบการพัฒนาโครงการให้มีความครบถ้วน เหมาะสม และสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ในโอกาสนี้ นายพันธ์เทพ 
เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งในสถานที่จัดงานและผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 157 คน
แบ่งเป็นผู้เข้าร่วม ณ สถานที่จัดงานจำนวน 79 คน และผ่านระบบออนไลน์อีก 78 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเอกชน และสื่อมวลชน


ในการกล่าวเปิดงาน นายพันธ์เทพฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการฯ ว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ที่จะยกระดับการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคกับกรุงเทพมหานครให้รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาเมือง และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคต่าง ๆ

นอกจากนี้ การเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมผ่านรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ยังเป็นแนวทางที่ช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐ นำความเชี่ยวชาญของเอกชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมบริการที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นจะได้รับประโยชน์อย่างรอบด้าน ทั้งในด้านการลงทุน การท่องเที่ยว การสร้างงาน สร้างรายได้ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน


การสัมมนาในครั้งนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันผลักดันโครงการให้สามารถเดินหน้าสู่การปฏิบัติได้อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์การพัฒนาระบบรางของประเทศไทย

การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดสัมมนาแนะนำโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนติดตั้งงานระบบ ดำเนินงาน และบำรุงรักษา โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย ณ กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดสัมมนาแนะนำโครงการศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการจัดทำเอกสารประกวดราคา และแนวทางดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP) ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม ซี ชั้น L โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์
เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Zoom Cloud Meeting

การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแนะนำโครงการฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ นำไปพัฒนาต่อการศึกษาโครงการ จะช่วยให้โครงการเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสุชีพ 
สุขสว่าง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายกำพล บุญชม รองวิศวกรใหญ่ด้านโครงการพิเศษ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานกว่า 87 คน ณ โรงแรม และอีก 65 คนผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 152 คน จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน


ในการกล่าวเปิดงาน นายวีริศ อัมระปาล เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการฯ ว่าเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมของประเทศ โดยจะช่วยเชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ สู่กรุงเทพฯ อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาเมือง และกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ทั้งนี้ การให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบ PPP จะช่วยลดภาระด้านงบประมาณของรัฐ ใช้ความเชี่ยวชาญของเอกชนอย่างเต็มที่ กระจายความเสี่ยง และเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมการให้บริการที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น


การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันโครงการให้สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ในการพัฒนาระบบรางของประเทศไทย